ทำไมควรเรียนต่อที่ออสเตรเลีย
ทำไมควรเรียนต่อที่ออสเตรเลีย
ปีที่ผ่านมามีนักศึกษาต่างชาติกว่า 630,000 คน เลือกศึกษาต่อที่ประเทศออสเตรเลีย ที่นี่เป็นประเทศที่ผู้คนเป็นมิตรและบรรยากาศของเมืองมีชีวิตชีวา เหมาะแก่การเดินทางไปหาประสบการณ์ด้านการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง
นักศึกษาต่างชาติที่มาเรียนต่อในประเทศออสเตรเลีย นอกจากจะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับโลกแล้ว คุณยังจะได้รับประสบการณ์นอกห้องเรียนที่น่าประทับใจอีกด้วย เนื่องจากออสเตรเลียเป็นประเทศที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว และแสวงหาประสบการณ์สนุกๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกลางใจเมืองที่มีกิจกรรมคึกครื้นสนุกสาน ชายหาดที่สวยงาม ป่าฝนเขตร้อนอันอุดมสมบูรณ์ และทะเลทราย เรียกได้ว่าชอบเที่ยวแบบไหนก็มีให้เลือกครบครันเลยทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจที่ออสเตรเลีย จะเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักศึกษาและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก หากมาเรียนต่อที่นี่ฮอลิเดย์ของคุณจะไม่มีวันน่าเบื่ออย่างแน่นอน
ปัจจุบันประเทศออสเตรเลียมีประชากรประมาณ 22,844,000 คน ซึ่งมาจากหลายเชื้อชาติ พวกเขาจึงเปิดรับและเป็นกันเองกับนักศึกษาต่างชาติเป็นอย่างดี คุณจะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตและเรียนหนังสือ ในประเทศที่มีชีวิตชีวา น่าตื่นเต้น และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว นับเป็นประสบการณ์น่าสนใจที่ไม่ควรพลาด
ระบบการศึกษาในออสเตรเลีย
ระบบการศึกษาในประเทศออสเตรเลียมีชื่อเสียงโด่งดัง และได้ชื่อว่ามีประสิทธิภาพสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เมื่อมีการประเมินผลสถานศึกษาและจัดอันดับ มหาวิทยาลัยและโรงเรียนในประเทศออสเตรเลียหลายแห่ง ก็ล้วนแล้วแต่ติดอันดับโลกอยู่เป็นประจำ ในบรรดาผู้ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติระดับโลกอย่างรางวัลโนเบล (Nobel Prize) ก็มีชาวออสเตรเลียถึง 10 คน มหาวิทยาลัยในประเทศออสเตรเลีย แบ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาล 37 แห่ง มหาวิทยาลัยเอกชน 2 แห่ง และสถานบันการศึกษาในระดับสูงต่างๆ อีกมากมาย โดยมี The University of Sydney เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1850
ทำไมควรเรียนต่อที่ออสเตรเลีย
ในปี ค.ศ. 2011 – 2012 มหาวิทยาลัย 7 แห่งในประเทศออสเตรเลีย ติดอันดับอยู่ในรายชื่อ 200 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก โดย The University of Melbourne coming อยู่ในลำดับที่ 37 และ The Australian National University อยู่ในลำดับที่ 38
บรรยากาศของชั้นเรียนในประเทศออสเตรเลีย จะเน้นกระตุ้นให้ผู้เรียนใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ แสดงความคิดเห็นอย่างเป็นอิสระ และผสมผสานระบบการศึกษาที่ยอดเยี่ยม เข้ากับความหลากหลายทางวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว ซึ่งจะเป็นการเปิดโลกใหม่ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ดีๆ ที่เป็นประโยชน์มากมาย
การเลือกเรียนต่อต่างประเทศ เป็นหนทางหนึ่งที่ดีในการพัฒนาศักยภาพด้านวิชาการ เพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ และยังได้ฝึกตัวเองให้มีความมั่นใจมากขึ้น รวมถึงพัฒนาทักษะในการเข้าสังคมอีกด้วย โดยเฉพาะเมื่อคุณเลือกเรียนเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างออสเตรเลีย คุณจะได้รับสิ่งที่เป็นประโยชน์กลับไปมากทีเดียว
สภาพภูมิอากาศ
นอกจากจะมีระบบการศึกษาที่ยอดเยี่ยมแล้ว ออสเตรเลียยังถือเป็นประเทศหนึ่งที่มีภูมิประเทศสวยงาม และมีสภาพอากาศที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตอีกด้วย
ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ สภาพภูมิอากาศจึงแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ โดยถ้าเป็นพวกเมืองชายฝั่งทะเลมักจะมีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี มีฤดูร้อนอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม ถึง เดือนกุมภาพันธ์ และมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 26-38 องศาเซลเซียล ดังนั้น หากไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลียในเมืองแถบชายฝั่งทะเล คุณควรจัดกระเป๋าโดยเน้นเสื้อผ้าบางเบาที่เหมาะกับอากาศร้อน และอย่าลืมเตรียมแว่นกันแดดกับชุดว่ายน้ำติดตัวไปด้วย เพราะคุณน่าจะได้ใช้มันอย่างแน่นอน ช่วงคริสต์มาสของประเทศออสเตรเลียจะตรงกับฤดูร้อนพอดี คุณจึงจะได้ฉลองคริสต์มาสด้วยปาร์ตี้บาร์บีคิวริมหาด
เดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคม จัดเป็นช่วงเดือนที่หนาวที่สุดของออสเตรเลีย แต่ถ้าคุณเรียนในเมืองแถบทางเหนือ อย่างเช่น Cairns, the north of Brisbane หรือ Ayers Rock อากาศก็จะไม่หนาวเย็นมากนัก โดยอุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียล ในขณะที่บางเมือง อย่างเช่น Canberra อากาศจะหนาวเย็นมากจนถึงขั้นน้ำกลายเป็นน้ำแข็ง หมวก ถุงมือ ผ้าพันคอ และเสื้อกันหนาวดีๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า แต่ละเมืองของออสเตรเลียจะมีความแตกต่างของสภาพภูมิอากาศค่อนข้างมาก คุณจึงต้องศึกษารายละเอียดของเมืองที่จะไปอยู่ให้ดีว่า มีสภาพอากาศตลอดปีเป็นอย่างไรบ้าง สภาพอากาศของประเทศออสเตรเลียได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำในมหาสมุทร นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ในแต่ละปีปริมาณน้ำฝนที่ตกในประเทศออสเตรเลียแตกต่างกันอย่างมาก แต่ไม่ว่าฝนจะตกมากหรือน้อย ในฤดูฝนคุณก็ควรพกร่มและเสื้อกันฝนติดตัวไว้เสมอ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น